• 042-211-040
  • info_technology@udru.ac.th

การประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของเครื่องจักรโดยใช้หลักการ ISO 12100 (กรณีศึกษาโรงงานผลิตเครื่องสำอาง)

นายสุภาณวงค์ ศรีลาศักดิ์

สาขาวิชาวิศวกรรมความปลอดภัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

นายเอกไท วิโรจน์สกุลชัย

ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

คำสำคัญ

การประเมินความเสี่ยง, ISO 12100, ความปลอดภัยเครื่องจักร

บทคัดย่อ

โรงงานผลิตเครื่องสำอางแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมบางพลี เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่งและผู้บริหารให้การสนับสนุนการพัฒนามาตรฐานด้านความปลอดภัยให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเล็งเห็นถึงความสำคัญในการปรับปรุงเครื่องจักรให้มีความปลอดภัยและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล แต่เครื่องจักรส่วนใหญ่ในโรงงานก็เป็นความท้าทายในการจัดการกับความเสี่ยง เพราะปัจจุบันยังขาดเครื่องมือในการประเมินความเสี่ยงเครื่องจักรที่เหมาะสม ที่มีหลักการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมอันตรายที่เป็นไปได้ของเครื่องจักร งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์ของการวิจัยแบ่ง ออกเป็น 3 ส่วน คือ เพื่อศึกษาวิธีการประเมินความเสี่ยงเครื่องจักรโดยใช้หลักการตามมาตรฐาน ISO 12100 เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการประเมินความเสี่ยงของเครื่องจักรในโรงงานผลิตเครื่องสำอาง และเพื่อกำหนดแนวทางในการปรับปรุงเครื่องจักรให้ปลอดภัยขึ้นโดยความเสี่ยงจากการทำงานกับเครื่องจักรลดลง ผลการวิจัยพบว่าวิธีการประเมินความเสี่ยงเครื่องจักรตามหลัก ISO 12100 มีความครอบคลุมแต่ละลักษณะความอันตรายของเครื่องจักรแต่ละประเภท และผลการประยุกต์ใช้วิธีการในการประเมินความเสี่ยงเครื่องจักรในโรงงานผลิตเครื่องสำอาง ทั้งหมด 50 เครื่องพบว่าเครื่องจักรจำนวน 11 เครื่อง มีระดับเสี่ยงสูง เครื่องจักรจำนวน 26 เครื่อง มีระดับความเสี่ยงปานกลาง และจำนวน 13 เครื่อง มีระดับความเสี่ยงน้อย สำหรับเครื่องจักรที่มีระดับความเสี่ยงสูงและระดับความเสี่ยงปานกลาง ถูกดำเนินการแก้ไขปรับปรุงโดยประยุกต์ใช้แนวทางในการปรับปรุงเครื่องจักรตามหลักการลดความเสี่ยงใน ISO 12100 ซึ่งผลการดำเนินงานปรับปรุงเครื่องจักรเสร็จสิ้นตามแผน 95 % ทำให้ผลการประเมินความเสี่ยงหลังการปรับปรุงเครื่องจักรพบว่าระดับความเสี่ยงของเครื่องจักรลดลง

reference

[1] กระทรวงแรงงาน. (2566). สถิติโรคจากการทำงาน ปี2561-2565. สืบค้นจาก https://www.mol.go.th/.
[2] จิตลดา ซิ้มเจริญ. (2554). การบริหารความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในการทำงานของพนักงาน กรณีศึกษา : สายการผลิตรถเข็นสแตนเลส. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอิสเทร์นเอเซีย, 5(1), 68 – 75.
[3] ปองวิทย์ ศิริโพธิ์. (2562). การศึกษาเครื่องมือการประเมินความเสี่ยงที่เหมาะสมในงานการทำงานภายในห้องพ่นสี อุตสาหกรรม. การประชุมวิชาการเครือข่ายวิศวกรรมเครื่องกลแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 33.
[4] ชัยวิชิต ดวนใหญ่ และ วีรวุฒิ กนกบรรณกร. (2563). การประเมินความเสี่ยงเชิงกึ่งปริมาณสำหรับการตรวจสอบและซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย, 10(4), 1 – 15.
[5] Friman, M. (2021). Risk Assessment in Automation and definition of requirements for the level of functional safety. Retrieved from https://www.theseus.fi/.
[6] Standard, I. (2019-10). ISO 13857 Safety of machinery Safety distances to prevent hazard zones being reached by upper and lower limbs.
[7] Standard, I. (2010). ISO 12100 Safety of machinery General principles for design Risk assessment and risk reduction.
[8] Standard, I. (2007). ISO TR 14121-2 Safety of machinery Risk assessment Practical guidance and examples of methods.
[9] Standard, I. (2015). ISO 13850 Safety of machinery Emergency stop function Principles for design.
[10] Labor, OSAHA US (2007). OSHA Safeguarding equipment and protecting employees from amputations. In Safeguarding Equipment and Protecting Employees from Amputations.
[11] กฎกระทรวง. (2564). กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการและดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ. ๒๕๖๔. สืบค้นจาก https://www.labour.go.th /index.php/59597-2564-31.
[12] กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน. (2563). 7 เทคนิควิธี การชี้บ่งอันตรายใช้สำหรับการประเมินความเสี่ยง. สืบค้นจาก https://www.tosh.or.th/index.php/blog/item/802-7.
ดาวน์โหลด PDF

Copyright © 2022 Faculty of Technology, Udon Thani Rajabhat University | All rights reserved.